สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม “หลักสูตรการนวด คอ บ่า ไหล่ และนวดหน้า” (รุ่นที่ 2)

วันที่ 29 กันยายน 2568 นายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม “หลักสูตรการนวด คอ บ่า ไหล่ และนวดหน้า” (รุ่นที่ 2) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2568 ณ อาคาร สว. สำนักส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

การฝึกอบรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจำนวน 10 ท่าน โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้และทักษะจากโรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการนวดแผนไทย และโรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการสุขภาพและความงาม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ เพิ่มโอกาสในการมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมประชาสัมพันธ์ ที่ร่วมกันสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับคนพิการอย่างต่อเนื่อง

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน ก้าวสู่เส้นทางแห่งความมั่นคงและความสำเร็จต่อไป

ผู้แทนจากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยร่วมประชุม Workability Asia Conference 2025 ณ กรุงมะนิลา

ระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2568 สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุม Workability Asia Conference 2025 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

โดยมีอุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยเข้าร่วม 3 ท่าน ได้แก่ นายดรัณภพ นันตาเรือน นายสุบิน แบขุนทด และนายภารากร คำเดช ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และหารือเชิงนโยบายกับผู้แทนจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย

การประชุมมุ่งส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในการพัฒนาอาชีพและการจ้างงานสำหรับคนพิการ เปิดเวทีแบ่งปันองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อผลักดันการจ้างงานที่มั่นคงและยั่งยืน

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนโอกาสการทำงานที่เสมอภาค สร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเติบโตและก้าวไปด้วยกันอย่างไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สัมมนาเพื่อสร้างความมั่นใจ: ออมอย่างรู้เท่าทัน วางแผนการเงินอย่างมั่นคง

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การออมและการวางแผนทางการเงินเพื่อความมั่นคงทางรายได้ในวัยหลังเกษียณอายุจากการทำงานของคนตาบอด” รุ่นที่ 3ระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2568 ณ โรงแรมทองธารา กรุงเทพมหานคร

ในโอกาสนี้ นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้ร่วมเป็นวิทยากรในเวทีสำคัญหลายช่วงของโครงการ อาทิ

• การอภิปรายเรื่องการวิเคราะห์และจัดพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวมให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง
• การสาธิตการใช้งานแอปพลิเคชันด้านการเงินที่คนตาบอดสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จริง
• การประชุมกลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอุปสรรคและแนวทางการส่งเสริมการออมและการลงทุนของคนตาบอดในระยะยาว

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวางแผนทางการเงินแก่คนตาบอด เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมด้านการออมและรายได้ในวัยหลังเกษียณได้อย่างมั่นคง

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยเชื่อมั่นว่า “การรู้เท่าทันเรื่องเงิน” คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนตาบอดสามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องรอให้ใครมาออกแบบชีวิตให้

เสริมทักษะการอ่านเขียนอักษรเบรลล์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

กองทุนส่งเสริมและพัฒนาการใช้อักษรเบรลล์แห่งชาติ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัด การอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้อักษรเบรลล์ระดับ 2 รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 21–24 กันยายน 2568 ณ โรงแรมบลู โฮเทล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวนิชาภา เสียงเย็น นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ เป็นประธานในพิธีเปิด นายเทวพงษ์ พวงเพชร เหรัญญิกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการกองทุนฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน นายสถาบ คะสุดใจ นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดนครพนม เป็นผู้กล่าวต้อนรับ

การอบรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้อักษรเบรลล์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษา การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันของคนตาบอด เพื่อให้เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และโอกาสต่าง ๆ ได้อย่าง เท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่ ทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนตาบอดทั่วประเทศ

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรู้และทักษะที่ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับ จะเป็น พลังสำคัญ ในการพัฒนาตนเอง และร่วมสร้างสังคมที่ ทุกคนเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียมกัน