วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย นำโดย นายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคมฯ นายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมฯ นางสาวกรรณิการ์ เอี่ยมไธสง กรรมการและนายทะเบียนสมาคมฯ และนายวีรศักดิ์ ตั้งพูลพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมฯสาขา กรุงเทพมหานคร ได้เข้าพบรองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร การหารือครั้งนี้มุ่งเน้นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้คนตาบอดได้เข้าทำงานในสำนักงานเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งสมาคมฯ ขอขอบคุณกรุงเทพมหานครที่สนับสนุนการจ้างงานคนตาบอดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตร่วมกันของคนทุกกลุ่มในสังคม โดยมีนายสานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย ในโอกาสนี้ สมาคมฯ ได้มอบ “กระเช้าแทนใจ” ซึ่งประกอบด้วยกล้วยตากห้วยแก้วมะลิอ่องสีทอง จากสมาคมคนตาบอดจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาดีและสนับสนุนอาชีพของคนตาบอดและครอบครัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2568 สมาคมฯ ได้ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่แก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งท่านได้ยืนยันว่าจะสนับสนุนทุกกิจกรรมของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตาบอดและคนพิการในกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้นต่อไป สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยขอขอบคุณกรุงเทพมหานครที่ให้การสนับสนุนอย่างดียิ่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนสำหรับทุกคน

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายสุนทร สุขชา กรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา เพื่อหารือในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับบัตรคนพิการ การประชุมครั้งนี้ได้มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดคำนิยามของคนพิการทางการเห็น เพื่อให้เหมาะสมกับการออกบัตรคนพิการ รวมถึงการพิจารณาว่ามีบุคคลที่มีความพิการทางการเห็นลักษณะใดที่ไม่เข้าเกณฑ์การได้รับบัตร และการไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิทธิของคนตาบอดอย่างไร นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาว่าการที่คนตาบอดมีบัตรคนพิการนั้นเป็นอุปสรรคหรือส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับหรือไม่ และควรมีแนวทางแก้ไขอย่างไร อีกทั้ง การประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับอุปสรรคในกระบวนการออกบัตรคนพิการกรณีของคนตาบอด ว่าปัจจุบันยังมีปัญหาหรือข้อจำกัดใดที่ต้องได้รับการแก้ไข รวมถึงการพิจารณาว่าหน่วยงานใดควรเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการให้คนตาบอดสามารถเข้าถึงการออกบัตรคนพิการได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้มีการเสนอแนวทางเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกระบวนการออกบัตร และเพิ่มโอกาสให้คนตาบอดสามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดการปรับปรุงระบบและนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนตาบอด เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิและโอกาสในสังคมได้อย่างเท่าเทียม และขอขอบคุณคณะอนุกรรมาธิการที่เปิดเวทีให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแนวทางที่ดีขึ้นสำหรับคนพิการทางการเห็นในอนาคต

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการบริหารและประชาสัมพันธ์สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายชัชชัย วิจิตรจรรยา กรรมการบริหารและเลขานุการสมาคมฯ และคณะอนุกรรมการการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและสิ่งอำนวยความสะดวกของสมาคมฯ ได้แก่ นายจตุพล หนูท่าทอง หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับคนตาบอด มูลนิธิคนตาบอดไทย และนายบริสุทธิ์ ผดุงโภคสูริย์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ สังกัดกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคม ได้เข้าพบ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ณ ห้องประชุม 802 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมและพัฒนา การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนตาบอด อาทิ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนเว็บไซต์ การใช้แอปพลิเคชันและบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็น ตลอดจนการติดตามความคืบหน้าในการปรับปรุงกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร บริการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสื่อสารสำหรับคนพิการ การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยทาง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายที่เอื้อต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของคนตาบอด เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียม สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยจะยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้คนตาบอดสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารได้อย่างเสมอภาค และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในยุคดิจิทัล

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 น. นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.นันทนุช สุวรรนาวุธ อุปนายกสมาคมฯ ได้เข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights: AICHR) กับภาคประชาสังคม ณ ห้องบอลรูม ชั้น 12 โรงแรมวี กรุงเทพฯ (Vie Hotel Bangkok) การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประมวลภารกิจและพัฒนาการสำคัญในกรอบ AICHR ในปี 2567 และนำเสนอวิสัยทัศน์สำหรับการดำเนินการต่อไปในอนาคต พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองและระดมสมองระหว่างผู้เข้าร่วม เพื่อยกระดับการดำเนินการของ AICHR ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในอาเซียน โดยมีอธิบดีกรมอาเซียน ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อมรา พงศาพิชญ์ อดีตผู้แทนไทยใน AICHR สองสมัย ระหว่างปี 2562 – 2567 และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุภัทร

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยได้จัดโครงการ “การอบรมทักษะการวิจัยให้กับคนตาบอด” ขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมทองธารา ริเวอร์วิว กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และฝึกปฏิบัติด้านกระบวนการวิจัยแก่ ผู้นำองค์กรภายใต้สมาคมฯ องค์กรในเครือ และองค์กรเครือข่าย พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในองค์กรคนตาบอด เพื่อส่งเสริมให้สามารถนำกระบวนการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตาบอดในพื้นที่ โดย ได้รับเกียรติจาก นางณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมทั้งร่วมอภิปรายในหัวข้อ “การใช้กระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” โดยมี ดร.คณิตผา มะณี กรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน การอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำคนตาบอด ให้สามารถใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มูลนิธิ ดร.แสวง กุลทองคำ และคุณหญิงสมจิตร์ กุลทองคำ ได้บริจาคเงินจำนวน 60,000 บาท เพื่อจัดซื้อไม้เท้าขาวจำนวน 100 อัน โดยมีนายเทวพงษ์ พวงเพชร กรรมการและเหรัญญิกสมาคมฯ เป็นผู้รับมอบ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยขอขอบคุณมูลนิธิ ดร.แสวง กุลทองคำ และคุณหญิงสมจิตร์ กุลทองคำ ที่ได้ร่วมสนับสนุนการจัดหาไม้เท้าขาว ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการส่งเสริมการเดินทางและการดำเนินชีวิตประจำวันของคนตาบอด สมาคมฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตาบอด และการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ ในครั้งนี้เป็นกำลังใจสำคัญในการดำเนินงานของเรา ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความเมตตาและการสนับสนุนที่มีต่อคนตาบอดในสังคมไทย

วันที่ 29 มกราคม 2565 นายเอกกมล แพทยานันต์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจศพ อาจารย์ปรีชา อักษรมี ณ วัดแสนสุข ถนนสุวินทวงศ์ ซอยสุวินทวงศ์ 16 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร อาจารย์ปรีชาเป็นอดีตอาจารย์โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ผู้เป็นที่เคารพรักของนักเรียนตาบอดและบุคคลในแวดวงการศึกษาสำหรับคนตาบอด ท่านได้อุทิศตนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตาบอดมาโดยตลอด ความเมตตาและความเสียสละของท่านจะยังคงอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป ในนามของ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของอาจารย์ปรีชา อักษรมี และขอส่งกำลังใจให้ครอบครังของอาจารย์ปรีชาผ่านช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้ไปด้วยความเข้มแข็ง ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์ปรีชาสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยรักและอาลัยยิ่ง

วันที่ 25 มกราคม 2568 นายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย นายเทวพงษ์ พวงเพชร กรรมการบริหารและเหรัญญิกสมาคมฯ นายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการบริหารและประชาสัมพันธ์สมาคม และนายสุนทร สุขชา กรรมการบริหารสมาคม ได้ลงพื้นที่ ณ ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ตอนบน ตำบลพรุพี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องคนตาบอดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร และระนอง การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของสมาคมฯ ในการเยียวยาและช่วยเหลือพี่น้องคนตาบอดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา พร้อมส่งต่อทั้งกำลังใจและความห่วงใยจากทุกท่านที่ร่วมบริจาคทั้งเงินและสิ่งของ ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้สมาคมฯ สามารถดูแลสมาชิกผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ที่ช่วยให้ภารกิจของเราสำเร็จและสามารถเติมเต็มความหวังและรอยยิ้มให้กับพี่น้องคนตาบอดในยามที่ยากลำบากเราจะยังคงเดินหน้าส่งต่อความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกท่านได้รับการดูแลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น