เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ 37 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ โดยมี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธี ภายในงานมีการมอบของที่ระลึกแก่ผู้ให้การสนับสนุนมูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระราชูปถัมภ์ และพิธีมอบรางวัลให้กับบุคคลตัวอย่างที่ประกอบคุณงามความดี มีคุณธรรม และสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม พร้อมการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้านหัตถกรรมทั่วประเทศที่ได้รับรางวัล และผลิตภัณฑ์จากคนพิการที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร เป็นสตรีผู้บุกเบิกงานด้านสังคมสงเคราะห์ของประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน “สภาสตรีแห่งชาติ” และ “สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย” ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นผู้วางรากฐานการพัฒนางานสังคมและการส่งเสริมสิทธิสตรีและคนพิการในประเทศไทย จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็น บุคคลสำคัญของโลกด้านสังคมสงเคราะห์ งาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร” จึงไม่เพียงเป็นเวทีแห่งการรำลึกถึงคุณูปการของสตรีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของแผ่นดินไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงคุณค่าของการให้และการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานอันทรงเกียรตินี้ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในการส่งเสริมศักยภาพและคุณค่าของ “ความเป็นมนุษย์” ที่เท่าเทียมกันในสังคมไทย

ช่วงพิธีเปิด ณ ห้องประชุมรวยอารี โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเปี่ยมไมตรี โดยมีนางเสาวนีย์ สุวรรณชีพ ประธานมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวต้อนรับในฐานะเจ้าของสถานที่ นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน และนางเบญจมาส แก่นเมือง รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ จากนั้น นางสาวกรรณิการ์ เอี่ยมไธสง กรรมการบริหารและนายทะเบียนสมาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมวันไม้เท้าขาวสากล ได้มอบของที่ระลึกแด่ท่านประธานในพิธี และนายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้สนับสนุนกิจกรรม โดยมีคุณปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณณัชชา ปุณณพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด เป็นผู้รับมอบ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ หลังจากถ่ายภาพหมู่ร่วมกันอย่างเป็นกันเอง เหล่าผู้เข้าร่วมก็ออกสตาร์ตภารกิจ “ตามล่าหา RC” ผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ บีทีเอส และเอ็มอาร์ที โดยมีอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือในแต่ละจุด ทุกทีมร่วมแรงร่วมใจ ฝ่าภารกิจที่ท้าทายและสร้างสรรค์ สำเร็จลุล่วงครบทุกภารกิจ แสดงให้เห็นถึงความสามารถ ความมุ่งมั่น

วันที่ 16 และ 17 ตุลาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคม และนายชัชชัย วิจิตรจรรยา กรรมการและเลขานุการสมาคม ลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่คนตาบอดและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับหลายพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภารกิจในครั้งนี้เริ่มที่จังหวัดพิจิตร โดยคณะผู้บริหารได้มอบถุงยังชีพแก่คนตาบอดและครอบครัว ณ วัดท่าไผ่ ตำบลท่าโพธิ์เหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนัก ต่อมาในวันที่ 17 ตุลาคม คณะได้ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อมอบถุงยังชีพแก่คนตาบอดและครอบครัวในสามจุดหลัก ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแก่ง เทศบาลทองแสนขัน และองค์การบริหารส่วนตำบลผักขวง โดยมีนางสาวการเกตุ พันธุ์มี ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยสาขาภาคเหนือตอนล่าง และนายวิชา ม่วงเอม นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมภารกิจและร่วมมอบสิ่งของด้วย กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยที่มุ่งยืนเคียงข้างคนตาบอดและครอบครัวในทุกสถานการณ์ ไม่เพียงมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่ยังมอบกำลังใจและความหวังให้ทุกครอบครัวสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมฯ และนายไปรเวท สทานสัตย์ อนุกรรมการประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กรสมาคม ฯ เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลจะหมดอายุในปี 2572 และเพื่อพิจารณาร่างแผนที่นำทางกิจการโทรทัศน์และการกระจายเสียงของประเทศไทย เวทีครั้งนี้เป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้แทนทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานกำหนดนโยบาย ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ภาคประชาชน และองค์กรด้านคนพิการ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางพัฒนากิจการโทรทัศน์ให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีและให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะบริการสำหรับคนพิการทางการเห็น เช่น เสียงบรรยายภาพและระบบสนับสนุนการเข้าถึงอื่นๆ สาระสำคัญของการประชุมมุ่งเน้นการกำหนดกรอบนโยบายใหม่ให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล ทั้งในด้านการจัดสรรคลื่น การทบทวนหลักเกณฑ์การให้บริการแบบบังคับ การบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการ และแนวทางการผสานระบบระหว่างโทรทัศน์กับแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ กสทช. จะนำไปประกอบการจัดทำโรดแมปกิจการโทรทัศน์ไทยฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับการหมดอายุของใบอนุญาตในปี 2572

เมื่อวันที่ 10 – 11 ตุลาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานฝ่ายต่างประเทศและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.นันทนุช สุวรรนาวุธ อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ ดร.อิศวรา ศิริรุ่งเรือง กรรมการอำนวยการสมาคมฯ เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อนพันธสัญญาจากการประชุมสุดยอดคนพิการระดับโลก ปี 2025 (Post GDS Regional Workshop) ณ โรงแรม Mövenpick BDMS Wellness Resort กรุงเทพมหานคร การประชุมครั้งนี้จัดโดยสหพันธ์คนพิการนานาชาติ (International Disability Alliance: IDA) สภาอาเซียนคนพิการ (ASEAN Disability Forum) และรัฐบาลเยอรมนี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้นำองค์กรคนพิการ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และผู้สนับสนุนด้านการพัฒนา ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้เท่าเทียมกับคนทั่วไป หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมคือ การขับเคลื่อน “พันธสัญญา” ที่ได้จากการประชุมสุดยอดคนพิการระดับโลก ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันของประเทศต่าง ๆ

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568นายชัชชัย วิจิตรจรรยา กรรมการและเลขานุการสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนางสาวกรรณิการ์ เอี่ยมไธสง กรรมการและนายทะเบียนสมาคมฯได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวหนังสั้นเรื่อง “รักเธอที่ใจดี” และ “Just Let Me Be” ภายใต้โครงการ am sati จัดโดยสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย โครงการ am sati มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและทัศนคติเชิงบวกของสังคมต่อคนพิการทางสติปัญญา พร้อมเปิดโอกาสให้คนพิการได้พัฒนาทักษะด้านการแสดง เสริมความมั่นใจ และถ่ายทอดศักยภาพผ่านสื่อภาพยนตร์ สะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่า ความสามารถ และหัวใจที่งดงาม” ของบุคคลที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม ในโอกาสนี้ คณะกรรมการสมาคมฯ ยังได้ร่วมถ่ายภาพกับนักแสดงจากทั้งสองเรื่อง ณ โรงภาพยนตร์ SF Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายจากนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เข้าร่วมโครงการ “ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการผลิตบริการเสียงบรรยายภาพเพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของคนพิการทางการเห็น” ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา จัดโดยคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีแกนนำคนตาบอดจำนวน 25 คนเข้าร่วมตลอดหลักสูตร พิธีเปิดได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์ คณบดีคณะวารสารศาสตร์ฯ กล่าวถึงความสำคัญของเสียงบรรยายภาพในฐานะเครื่องมือเพื่อความเสมอภาคด้านสื่อสารมวลชน จากนั้น นายเอกพงษ์ นบสกุล ในนามสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวถึงบทบาทและคุณค่าของเสียงบรรยายภาพในมุมมองผู้ใช้บริการจริง ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้คนตาบอดสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป ในช่วงบ่าย นายเอกพงษ์ยังได้ร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “หลักการและแนวทางที่ควรคำนึงถึงในการตรวจคุณภาพเสียงบรรยายภาพ” ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ตระหนักถึงมิติการใช้งานจริงและความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพเสียงที่ไม่ใช่เพียงกระบวนการเชิงเทคนิค แต่เกี่ยวพันโดยตรงกับสิทธิในการเข้าถึงสื่อของคนตาบอด ตลอดการอบรมทั้งสามวัน ผู้เข้าร่วมได้รับการเติมเต็มความรู้และทักษะจากทีมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ รศ.ดร.อารดา ครุจิต และ รศ.ดร.กุลนารี เสือโรจน์ ผู้ทำโครงการหลักที่ออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึง ดร.อิศวรา ศิริรุ่งเรือง ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงบรรยายภาพซึ่งร่วมสะท้อนความท้าทายและมาตรฐานที่ควรมีในการตรวจสอบคุณภาพเสียง โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่แสดงถึงบทบาทของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยในการผลักดันสิทธิของคนตาบอดและคนพิการทางการเห็นให้เข้าถึงบริการเสียงบรรยายภาพได้อย่างเสมอภาค พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายและมาตรฐานที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และประธานฝ่ายต่างประเทศและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.นันทนุช สุวรรนาวุธ อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้ร่วมหารือกับผู้แทนจาก Disabled People International (DPI) Korea การสนทนาครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เชิงนโยบายและการปฏิบัติจริงในหลายประเด็นสำคัญ อาทิ • การเข้าถึงสภาพแวดล้อมในเมือง โดยเฉพาะทางเท้าและสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ควรยึดหลักการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal Design)• การนำคนพิการออกจากสถานสงเคราะห์คืนสู่ชุมชน (Deinstitutionalization) การฝึกอาชีพ และระบบสิทธิประโยชน์ตามประเภทความพิการ• การจ้างงานตามระบบโควตา รวมถึงการหารือเชิงลึกเกี่ยวกับอาชีพของคนตาบอด เช่น การปรับปรุงระบบใบอนุญาตการนวดแผนไทยให้เอื้อต่อคนตาบอด และการรับมือกับผลกระทบจาก “ลอตเตอรี่ดิจิทัล” ที่กระทบต่ออาชีพค้าสลาก• การแบ่งปันประสบการณ์จากเกาหลีในการลดบทบาทโรงเรียนเฉพาะความพิการ เพื่อส่งเสริมการเรียนรวมในชุมชน ทั้งสองฝ่ายย้ำเป้าหมายร่วมกันคือ “การสร้างเมืองที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน” และเปิดประตูความร่วมมือไทย–เกาหลีในการดำเนินโครงการเชิงรูปธรรมต่อไป โดยเน้นการแลกเปลี่ยนในบรรยากาศเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างยั่งยืนในทั้งสองประเทศ

วันที่ 29 กันยายน 2568 นายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม “หลักสูตรการนวด คอ บ่า ไหล่ และนวดหน้า” (รุ่นที่ 2) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2568 ณ อาคาร สว. สำนักส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ การฝึกอบรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจำนวน 10 ท่าน โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้และทักษะจากโรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการนวดแผนไทย และโรงเรียนรุ่งฤทธิ์วิทยาการสุขภาพและความงาม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ เพิ่มโอกาสในการมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมประชาสัมพันธ์ ที่ร่วมกันสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับคนพิการอย่างต่อเนื่อง สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน ก้าวสู่เส้นทางแห่งความมั่นคงและความสำเร็จต่อไป