เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากรใน “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการวิสาหกิจเพื่อสังคม สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สำหรับคนตาบอดตามแนวทางพระราชบัญญัติวิสาหกิจเพื่อสังคม รุ่นที่ 3” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเจ้าพระยาธารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดชัยนาท ใน โดยนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้ร่วมถ่ายทอดความรู้และฝึกปฏิบัติในหลายหัวข้อสำคัญ อาทิ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “การบริหารจัดการเทคนิคการจัดทำเอกสารและข้อมูลเพื่อการประเมินผลโครงการอย่างมีประสิทธิภาพขององค์กรคนตาบอด” รุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 9 – 11 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเดอะกรีนปาร์ค แกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เพื่อส่งเสริมให้ผู้แทนองค์กรคนตาบอดมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ และกระบวนการติดตามประเมินผลโครงการของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและแหล่งทุนอื่นอย่างถูกต้องและครบถ้วน พร้อมทั้งพัฒนาทักษะด้านการจัดทำเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการ และสร้างความมั่นใจในการเตรียมพร้อมรับการประเมินผล โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร เป็นประธานในพิธีเปิด และนายชัชชัย วิจิตรจรรยา กรรมการและเลขานุการสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นผู้กล่าวรายงาน นอกจากนี้นายอภิชาต จากผา ผู้แทนคนตาบอดประจำจังหวัดยโสธรยังได้ทำหน้าที่กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมทุกท่านอย่างอบอุ่น โครงการดังกล่าวจัดขึ้นทั้งหมด 5 รุ่น ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

วันที่ 6-7 สิงหาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่เพื่อร่วมเป็นวิทยากรในโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากสาธารณภัยในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับคนตาบอด” รุ่นที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเดอะไพน์ แอพเพิล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ท่านนายกสมาคมฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและให้ข้อเสนอแนะผ่านเวทีเสวนาหลายช่วง โดยได้พูดถึงบทบาทขององค์กรคนตาบอดในระดับต่าง ๆ ที่ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ พร้อมทั้งถ่ายทอดสาระสำคัญของกฎหมายและแผนงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนแนวทางการเตรียมความพร้อม การวางแผนช่วยเหลือ และการเยียวยาที่เหมาะสมสำหรับคนตาบอดในยามวิกฤติ การเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยในฐานะองค์กรคนพิการระดับชาติ ที่ไม่เพียงมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนตาบอดในภาวะปกติเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการคุ้มครองและการช่วยเหลือที่เป็นธรรมในทุกสถานการณ์ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ช่วงที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในภาคเหนือเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยอย่างหนัก จังหวัดน่านถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในชุมชนที่มีคนตาบอดและครอบครัวอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งต่างก็เผชิญความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยนายสุบิน แบขุนทด อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยนายภารากร คำเดช อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยนายสุนทร สุขชา กรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยนายธภัทร ลือชา ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยสาขาภาคเหนือตอนบน ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 5–6 สิงหาคมที่ผ่านมา🔸 วันที่ 5 สิงหาคม ลงพื้นที่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง🔸 วันที่ 6 สิงหาคม ลงพื้นที่บ้านยู้ ตำบลจอมพระ อำเภอท่าวังผา เพื่อนำถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นไปมอบให้แก่พี่น้องคนตาบอดและครอบครัว พร้อมทั้งให้กำลังใจ พูดคุย และรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การนำของไปส่งมอบ แต่เป็นการสื่อสารถึงความห่วงใยจากใจของพวกเราทุกคนที่อยากให้รู้ว่า “ไม่ว่าภัยพิบัติจะหนักหนาแค่ไหน เราจะไม่ทอดทิ้งกัน” 🧡 ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องคนตาบอดและครอบครัวทุกคน🧡 ขอให้เข้มแข็ง อดทน และเชื่อมั่นว่าเราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน🧡 ฟ้าหลังฝนจะสดใสเสมอ และจะมีรอยยิ้มรออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งแด่นางบุญเรือน แกะขุนทด นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สาขาภาคกลางตอนล่างและนายจิรายุทธ์ ศรีแจ่มใส ผู้แทนคนตาบอด สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดสิงห์บุรี ในโอกาสที่ทั้งสองท่านได้รับการคัดเลือกเป็น “บุคคลต้นแบบทำความดีเพื่อแผ่นดิน วุฒิสภา” โดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา ซึ่งมอบรางวัลโดยนางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 09.15 น. ณ ห้องประชุม 402-403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา)กล่าวเปิดโดยประธานคณะกรรมาธิการฯ การรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน รวมถึงการอภิปรายในหัวข้อ “ต้นแบบทำความดี พลังสังคม พลังแผ่นดิน” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและขยายผลการทำความดีสู่สังคมในวงกว้าง สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยขอชื่นชมและภาคภูมิใจในเกียรติยศครั้งนี้ของทั้งสองท่าน ที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง และขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทั้งสองท่านเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งดีงามเพื่อแผ่นดินไทยต่อไป

เมื่อวันที่ 1 – 3 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดในพื้นที่ เสริมสร้างความเข้าใจกฎหมายแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการสำหรับภาคีเครือข่าย” รุ่นที่ 1 ณ ประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเทล จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับเกียรติจาก นางณัฐพร ยศสูงเนิน ผู้อำนวยการศูนย์บริการคนพิการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิด มีนายเทวพงษ์ พวงเพชร กรรมการและเหรัญญิกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน และนายกัญณภพ อุ่นแก้ว อุปนายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้คนตาบอดรายใหม่และครอบครัวได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและองค์กรของคนตาบอดในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 125 คน ประกอบด้วยคนตาบอด ญาติ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่โครงการ และวิทยากรที่ให้ความรู้ตลอด 3 วัน โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดโครงการพัฒนากลยุทธการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารยุคดิจิทัลสำหรับผู้นำองค์กรคนตาบอด รุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม แจ๊สโซเทล กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านการประชาสัมพันธ์และการใช้เทคโนโลยี ให้การประชาสัมพันธ์มีประสิทธิภาพ เพิ่มศักยภาพในการทำงานและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในยุคปัจจุบัน โดยได้รับเกียรติจาก นางณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิปดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานกล่าวเปิด และนายเอกพงษ์ นบสกุล กรรมการและประชาสัมพันธ์ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน นอกจากนี้นายกสมาคมสตรีตาบอดในประเทศไทย นางลักษณา ตั้งพูลพันธุ์ ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับอีกด้วย หลังจากพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นางสาวชัยศิลป์ คนคล่อง นักสื่อสารมวลชนชำนาญการพิเศษ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ ร่วมเป็นวิทยากรในการอภิปรายเป็นคณะในหัวข้อ การบริหารกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้นำคนตาบอดสู่องค์กรเข้มแข็ง จะช่วยตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดได้อย่างไร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ขององค์กรคนตาบอด ในนามสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยต้องขอขอบคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ ในโอกาสเดียวกัน เวทีนี้ยังได้รับเกียรติจากนายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยร่วมอภิปรายด้วย จึงทำให้การอภิปรายหัวข้อดังกล่าวสมบูรณ์แบบและครบทุกกระบวนการในการประชาสัมพันธ์องค์กรมากขึ้น โครงการนี้จัดขึ้นทั้งหมด 5 รุ่น ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านการประชาสัมพันธ์และการใช้เทคโนโลยี AI ในการบริหารจัดการสื่อ สร้างความเข้าใจในแนวทางการวางแผนกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างผู้นำคนตาบอดและเจ้าหน้าที่ในองค์กร

วันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มอบหมายให้นางสาวกรรณิการ์ เอี่ยมไธสง กรรมการและนายทะเบียน สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีเปิดงานนิทรรศการ “เรื่องเล่าจากหมู่บ้านแห่งแสง” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โครงการนี้เกิดจากแรงบันดาลใจในวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ บ้านพระบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน และมีเป้าหมายเพื่อให้คนตาบอดได้เข้าถึงและมีส่วนร่วมกับศิลปะอย่างแท้จริง โดยมีกิจกรรมสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่• กิจกรรมแรก พาผู้แทนคนตาบอดไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นผลงานศิลปะ• กิจกรรมที่สอง จัดทำหนังสือนิทานระบายสีที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากการเดินทาง• กิจกรรมสุดท้าย จัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินชั้นนำ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้สัมผัสศิลปะอย่างเท่าเทียม นิทรรศการจัดมาตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2568 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร วันที่ 4 – 8 สิงหาคม 2568 ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ และวันที่ 12 สิงหาคม 2568 หที่มู่บ้านพระบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน โดยนางสาวกรรณิการ์ เอี่ยมไธสง

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลา 9.30 – 12.00 น. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ร่วมกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ภายใต้โครงการ “ร่วมใจไกล่เกลี่ย 2025” ให้แก่คนพิการ 3 ประเภท ได้แก่ คนพิการทางการเห็น คนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ณ ห้องประชุม 404 สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายสหรัฐ สิริวัฒน์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นประธานเปิดงาน และให้ความรู้ตลอดการอบรม พร้อมทั้งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้จัดทำสื่ออักษรเบรลล์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดี เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการทางการเห็นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับทั้งความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการไกล่เกลี่ย เทคนิคการเตรียมตัวเมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การรู้จักสิทธิของตนเอง และแนวทางในการสื่อสารเพื่อลดความขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และสามารถนำไปเผยแพร่ต่อให้กับคนพิการในชุมชนของตนเองได้อีกด้วย

สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “วิสาหกิจเพื่อสังคม สร้างโอกาส สร้างอาชีพสำหรับคนตาบอด” รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ จ.พิษณุโลก เพื่อส่งเสริมให้คนตาบอดได้มีการพัฒนาศักยภาพในด้านการดำเนินงานในเชิงวิสาหกิจชุมชน ทั้งด้านการวางแผนการจัดตั้ง การบริหารจัดการวิสาหกิจเพื่อสังคม การสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน มีกำไร และสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงหลักการของวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยได้รับเกียรติจาก นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิด มี นายชัชชัย วิจิตรจรรยา ประธานคณะอนุกรรมการวิสาหกิจและโครงการจัดหารายได้เข้าสู่องค์กร กล่าวรายงาน และนางสาวการะเกด พันธ์มี ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือตอนล่าง กล่าวต้อนรับ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นทั้งหมด 5 รุ่น ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์